บทความยาว อ่านแล้วอาจทำให้หาวได้
"ไม่มีความรักในคลื่นความถี่"
อยู่บางแสน วิทยุชัดอยู่คลื่นเดียว ใครๆก็รู้
ต่อให้หมุนจนคลื่นไส้ก็ไม่มีคลื่นไหนชัดเท่าคลื่นนี้
การอยู่หอในสมัยปีหนึ่ง วิทยุถือว่ามีส่วนสำคัญในการใช้ชีวิตที่นี่พอสมควร
ทีวีที่มีเพียงแค่ชั้นละเครื่อง บางหอก็หอละหนึ่งเครื่องถ้วน
ไม่ได้ช่วยเยียวยาความอยากดูโลกภายนอกของเด็กปีหนึ่งทั้งหมดได้
บางห้อง จึงมีวิทยุตัวเล็กๆ บ้างก็เป็นแฟลชไดร์ฟที่สามารถรับคลื่นความถี่
เอาไว้ฟังเพลงตอนกลางคืน ติดตัวไปตอนซักผ้า
บ้างใส่หูฟังตอนที่เพื่อนอยู่กันเต็มห้อง
สร้างความเป็นส่วนตัวขึ้นมาต่อหน้าที่สาธารณะ
ผมไม่ค่อยเชื่อว่ามีเด็กมอบูที่ไหนฟังคลื่นนี้เท่าไหร่นัก
เท่าที่ได้ยิน ก็มีแต่เซเว่น ร้านลูกเตี่ย ที่เปิดเพลงคลื่นนี้ให้ลูกค้าฟังอยู่บ่อยๆ
ซึ่งถือว่าเป็นการฟังที่ไม่ได้เกิดจากการเปิดฟังเอง
จนกระทั่งมีโอกาสได้ไปทำงานที่นั่น
สมัยที่เรียนอยู่
ไทม์ไลน์ชีวิตสองปีของผม วนเวียนอยู่ที่คลื่นความถี่นั้นพอสมควร
มีหัวหน้าใหญ่ใจดี แนะนำให้ไปเป็นดีเจเปิดเพลงให้เด็กบางแสนฟังอยู่วันละสี่ชั่วโมง
ตอนแรกไม่รู้หรอก ว่าชีวิตหลังคลื่นความถี่ มีคนนั่งฟังมากน้อยแค่ไหน
แต่พอได้ทำไปสักระยะ ก็มีเรื่องพอให้เล่าได้ว่าในคลื่นความถี่นั้น
มีเรื่องราวของเด็กมอบูซุกซ่อนอยู่มากมายแค่ไหน
ผมมักได้รับโทรศัพท์จากเด็กผู้หญิงหอ 15 หอ 50
โทรมาขอเพลงในยามที่พวกเธอกำลังวุ่นกับการอ่านหนังสือสอบ
มีเด็กผู้หญิงบ้านไกลบางคน อาศัยคลื่นความถี่นี้ โทรมาขอเพลง
เพื่อให้อยู่เป็นเพื่อนในคืนที่เพื่อนทั้งห้องหนีกลับบ้าน ไม่มีใครอยู่กับเธอ
ช่วงที่ผมจัดดึก
มักมีเด็กผู้ชายวิศวะโทรเข้ามาขอเพลงหลังไมค์ให้ผู้หญิงคนนึงอยู่บ่อยๆ
หลังไมค์ เขาไม่ได้บอกผมว่าเธอเป็นใคร แต่ชอบเล่าให้ผมฟังว่า
เขาแอบชอบเธอ แต่ไม่กล้าบอก ทุกๆวันได้เจอกัน แซวกันพอหอมปากหอมคอ ส่งสายตาลับๆล่อๆให้กังวลใจเล่น
ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่โทรมาขอเพลงแล้วระบายให้ผมฟังอยู่ทุกวัน
เป็นเรื่องปกติที่มีหนุ่ม สาว ชาย หญิง โทรเข้าออกมาที่นี่
มีหลายรูปแบบ บางคนเป็นคนหนักแน่น
โทรมากี่รอบ ก็ขออยู่เพลงเดียว
ทั้งๆที่เพลงที่ขอ ก็เพิ่งจะเปิดไปเมื่อกี้
บางคนจิตใจดี
เห็นผมจัดรายการดึกๆ ก็มีการส่งข้าวส่งน้ำมาให้
ฝากพี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างมาส่ง
รุ่นน้องบางคนโทรมาขอเพลง บางคนรีบมาก รอไม่ไหว
ขี่มอเตอร์ไซค์มาหาถึงสถานี
ไม่เปิดให้ก็คงโดนซ้อมยับคาห้องส่ง
เท่าที่เจอมา คนฟังวิทยุเป็นคนใจร้อน
ขอปุ๊ปอยากให้ผมเปิดปั๊ป อารมณ์แบบกูเป็นเครื่องเล่นซีดีให้มึง
ผมพูดอะไรมากไม่ได้ เพราะในฐานะคนของประชาชน
ได้แต่บอกว่า ถ้ารีบมาก เปิดเอ็มพีสาม ฟังเองเลยจ้ะ อีโมติคอน smile
บางคนโทรมาพร้อมกับน้ำตา
ถ้าไม่ได้เป็นคนจัดจริงๆ จะไม่เชื่อเลยว่า
มีเด็กมอบูร้องไห้โทรมาขอเพลง เพราะว่าแฟนตัวเองเพิ่งบอกเลิกไปตะกี้
ไอเราก็ลนลาน น้ำท่วมวิทยุ ทำอะไรไม่ถูก ไม่ได้เตรียมตัวมาเป็นศิราณี
โอ๋ใครก็ไม่เป็น เพราะส่วนใหญ่เป็นพวกประเภทชอบซ้ำเติม
จนมีน้องผู้หญิงคนนึงที่โทรมาเล่าเรื่องชีวิตของเธออีกคนหนึ่ง
ผมไม่ได้สังเกตอะไร เพราะก็เป็นเรื่องราวกุ๊กกิ๊ก
แอบชอบรุ่นพี่ที่เรียนคณะเดียวกันทั่วไป โดนแซว โดนแกล้งเป็นปกติ
แต่มาเอะใจในวันสุดท้าย
ที่เธอโทรมาบอกว่ากำลังจะลาออกไปเรียนต่อที่อื่น
เธอโทรมาขอเพลงให้รุ่นพี่เธอคนนั้น ซึ่งไม่รู้ว่าทุกครั้งที่เปิดเพลงไป
เขาจะนั่งฟังอยู่ด้วยรึป่าว
สักพักไอเด็กวิศวะที่โทรมาขอเพลงให้สาวที่เล่าไปเมื่อต้นเรื่องก็โทรมา
บอกว่าขอเพลงให้สาวรุ่นน้องที่เธอหลงรัก
ที่ตอนนี้กำลังจะลาออกไปเรียนที่อื่น
เอ๊ะ ...
ทำไมมันคุ้นๆ เหมือนเดจาวู กูเคยได้ยินอะไรแบบนี้มาก่อนรึป่าว
สาวไปสาวมา ปรากฏว่า เรื่องที่เด็กหญิงเล่าให้ฟัง
ก็คือไอหนุ่มวิศวะจอมกวน
ส่วนสาวรุ่นน้องที่มันหลงรัก
ก็เป็นเด็กหญิงคนเดียวกันกับคนที่โทรมาบอกลา
แล้วตลอดเวลาที่ขอเพลงให้กัน มึงเคยนั่งฟังพร้อมกันไหม ?
ผมไม่รู้
รู้แต่เพียงว่าวันสุดท้ายที่เธอโทรมา
เป็นวันเดียวที่เขาสองคนนั่งฟังวิทยุพร้อมกัน
ทุกครั้งที่เปิดวิทยุ
เพลงทุกเพลงที่เปิดมานั้น บางเพลงอาจเปิดเพราะการโฆษณา
เป็นช่วงที่ศิลปินกำลังมาแรง ไม่นานจะมาสัมภาษณ์ที่นี่
แต่บางเพลง ก็เป็นเพลงที่คุณขอมา
ให้กับอีกคนที่ไม่รู้ว่าฟังอยู่รึป่าว แต่นั่นไม่ได้สำคัญอะไร
เพราะแค่ได้ขอ ได้ฟังอยู่คนเดียว ก็ทำเอามีความสุขไปแล้ว
มีน้องคนนึงโทรมากลางดึก
เธอนอนฟังผมเปิดเพลงอยู่ที่โรงพยาบาลมหาลัย
พรุ่งนี้เธอต้องเข้าผ่าตัดช่องท้องที่ทำให้เธอต้องมานอนค้างที่นี่
เธอของเพลง รุ้ง ของพาราด็อกซ์ให้ผมให้เธอฟัง
"มองรุ้งทอแสงทอง ตัดเส้นขอบฟ้า เส้นทางฝันไม่ไกล"
เมโลดี้ไม่เศร้า แต่เนื้อเพลงเล่นเอาซึม
ผมเล่าเรื่องเธอให้คนอื่นฟังที่หน้าไมค์
ไม่นาน มีข้อความส่งเข้ามาที่สถานีนับร้อย
ใจความเดียวกัน ว่าขอเป็นกำลังใจให้เธอ
และขอให้การผ่าตัดพรุ่งนี้ ผ่านไปด้วยดี
การนั่งเปิดเพลงให้คนอื่นฟังที่นี่
ทำให้ผมรู้ว่า เหตุผลของการฟังเพลง
ไม่ได้มีแค่ อยากฟัง
เพราะทุกสายที่โทรเข้ามา มีเหตุผลแตกต่างกันออกไป
แต่เหตุผลหนึ่งที่ชัดเจนมีอยู่ว่า
"มันมีความรัก ซ่อนอยู่ในคลื่นความถี่"
ผมไม่แน่ใจว่าตอนนี้เรายังฟังวิทยุกันอยู่ไหม
เพราะตอนนี้ไม่ว่าจะอยากฟังเพลงไหน you tube
หรือ mp3 ก็ตอบแทนความต้องการเราได้
แต่เชื่อผมมั้ย การที่เราไม่รู้ว่าเพลงต่อไปเป็นเพลงอะไร
หรือจู่ๆมันเป็นเพลงที่มีคนขอให้เรานั้น
มันมีอรรถรสกับแก้วหูมากกว่ายูทูปเป็นไหนๆ
ถึงแม้ว่าวิทยุบางแสนจะชัดอยู่คลื่นเดียว
มีเซเว่นเป็นกองหนุนเปิดให้เราฟังอยู่บ่อยๆ
แต่ผมก็เชื่อว่ายังมีเด็กหอบางคนเปิดฟัง
บางคนเปิดระหว่างขับรถ
และยังมีหนุ่มสาวที่หลงใหลการขอเพลงจีบกัน
เปิดมาฟังกันอยู่ไม่ขาดสาย
อาจจะไม่มากเหมือนเมื่อก่อน
แต่ก็คงไม่ได้หายจากกันไปไหน
ในวิทยุมีชีวิต
ไม่เชื่อลองเปิดฟังดูครับ