วันศุกร์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ร้านข้าวแกงที่ต้องไปลองสักครั้ง ร้าน ป้าเอ็กซ์

บันทึกของชายคนหนึ่ง กล่าวถึง ร้านข้าวแกงที่แพงที่สุดในโลก 



เกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ถ้ามีใครสังเกต
จะเห็นว่ามีร้านข้าวราดแกงร้านหนึ่งที่หน้ามอ บูรพาบางแสน หายไปอย่างไร้ร่องรอย

ร้านของแม่ค้าเจ๊ก 3 คน ผมขาวราวปลูกสำลีบนกระหม่อม อายุราวๆ 80 แต่เรื่องความแข็งแรงต้องยกให้เลย ทั้งทำกับข้าว เปิดร้าน แบกน้ำ ล้างจาน เก็บร้าน แกอยู่ถึงเที่ยงคืนเพื่อปิดร้านทุกวัน แตกต่างจากคนแก่บางคน ผมชื่นชมจริงๆ แกขมีขมันบรรจงกับข้าวประมาณเกือบยี่สิบอย่างทุกวัน ไม่แตกต่างกับร้านข้าวแกงอื่นๆ ถ้าร้านนี้ไม่แพงกว่า

ไม่แพงธรรมดา แต่ "โครตแพงเลยสัด"

แกบอกว่า วัตถุดิบแกเลือกสรรมาอย่างดี ตื่นแต่ตีสี่ตีห้าไปตลาดเพื่อเลือกกุ้งตัวใหญ่ๆมาทำกับข้าว

ผมไม่รู้ว่าเขาเรียกร้านนี้ว่าอะไร
แต่เท่าที่ผมรู้มา เขาเรียกร้านนี้่ว่า "ร้านป้าเอ็กซ์"

ป้าไม่ได้เซกซี่

ป้าไม่ได้เปิดไหล่ ใช้หัวนมจับตลิวทำกับข้าว 


แต่กับข้าวป้า เอ็กเพนซีฟ มาก .. ใช้ครับบบบ แม่งแพงเหรี้ยๆสำหรับกระเป๋าตังนักศึกษาตาดำๆอย่างนี้ กับข้าวของแกจะอยู่ราวๆ 80 บาท ข้าวอีกจานละสิบ วันนั้นผมไปกินคนเดียวเห็นกับข้าวแกน่ากินครับ เลยจัดไปข้าวกระเพรา พอคิดเงินเท่านั้นแหละ ล่อไป 95 บาท ช็อคซีนีม่าจ้า

งี้แหละครับ เราถึงเรียกสั้นๆว่า ป้าเอ็กซ์ ป้ารู้ว่าเรานินทาป้าอยู่ แน่นวลลล!!!!

ผมแวะไปกินข้าวร้านป้าบ่อย
ไม่ใช่เพราะมีเงินเหลือ
แต่กับข้าวป้า เหมาะสมกับราคาที่ตั้งไว้
กินไม่ได้ทุกมื้อ นานๆกินที
เพราะถ้ากินบ่อยๆ ต่อไปอาจไม่มีกิน (น้ำตาไหลแพร๊บบบ)

ร้านป้าเอ็กซ์ ปิดทำการไปประมาณ 5 เดือน
จู่ๆ วันนี้ก็เปิดขายปกติอย่าไม่ป้ายบอกล่วงหน้า
ผมสงสัยมาตลอดเวลา ว่าป้าหายไปไหน
ตอนแรกคิดว่าป้าตาย (เฮ้ย!!)

วันนี้เลยถือโอกาสที่ป้ามาเปิด เดินเข้าไปกินข้าวตามปกติ
พร้อมแอบยิงคำถามระหว่างรอป้าตักข้าวไปเรื่อยๆ

ก่อนหน้านี้ผมคุยกับป้าค่อนข้างบ่อย
เจอกันครั้งนี้ป้าจึงยิ้มกว้างให้ผมอย่างเห็นได้ชัด

1 ใน 3 ของป้าเอ็กซ์ เข่าเสื่อม
เสื่อมถึงขั้นต้องตัดแล้วงัดออกเท่านั้น
หมอบอกไม่ไหวแล้ว ขืนเก็บไว้ ป้าเล่นหกกบไม่ได้แน่ๆ


ป้าเอ็กซ์ที่ 1 จึงตัดสินผ่าตัดหัวเข่า
เลาะลูกสะบ้าทิ้ง แล้วนำไทเทเทียมมาดามใหม่
เป็นเข่าใหม่ เป็นหลักใหม่ แต่ยังคงเป็นป้าเอ็กซ์ที่ 1 คนเดิม

ตลอดห้าเดือน ป้าทำกายภาพบำบัด
ป้าเอ็กซ์ที่เหลือ ช่วยกันดูแลตามประสาพี่น้องที่ไม่มีสามีทั้งหมด

ผมนั่งถามเรื่องราวของป้าไปเรื่อยๆ
ด้วยความอยากรู้
ร้านของป้า ที่จริงแล้ว ชื่อว่า ร้าน "แสนอาภรณ์"
ป้าเปิดมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2524
ช่วงนั้นเป็นช่วงพนักงานโรงไฟฟ้าที่บางประกงมาพักที่บางแสนเยอะมาก
เป็นยุคเฟื่อฟูของบางแสนยุคหนึ่ง
ครอบครัวของป้ามี 9 คน เป็นคนชลบุรี
ตอนนี้เหลือ 8 เพราะโดนสิบล้อเสยไปหนึ่ง

ป้าทำกับข้าวเป็นเพราะเตี่ยสอน
สอนได้ไม่นาน เตี่ยก็ตาย
แต่ยังทิ้งเสนห์ปลายจวักไว้ให้ป้าได้สานต่อ
ป้าจึงตัดสินใจเปิดร้านข้าวแกงเล็กๆ
ขายริมฟุตบาทที่หน้ามอบูรพา
ขายมาเรื่อยๆ จนลืมไปว่าตอนนี้ตัวเองอายุเท่าไหร่
เผลออีกทีก็ผ่านมา 31 ปีแล้ว

ผมถามป้าว่า ป้ารู้มั้ยว่าเขาพูดกันหนาหูว่าของป้าโครตแพง

ป้าบอกว่า ป้ารู้ บางคนพอป้าบอกราคาตอนตักกับข้าวเสร็จ
มันก็เดินหนีป้าไป
บางคนก็กินไม่จ่ายตังค์ เดินหายไปตอนไหนก็ไม่รู้
บางคนก็ด่าป้า บอกว่า น้ำพริกกะปิอะไร
ถุงละสามสิบ เกิดมาไม่เคยเจอ


แต่จะให้ป้าทำยังไง
ถ้าเขาอยากกินของถูก เขาก็จะไม่ได้ของที่มีคุณภาพดี
เราไม่ทำหรอก ซื้อกะปิถูกๆมาทำ
ซื้อของเก่าๆ ไม่สดมาหลอกขาย
เราตั้งใจทำให้เขากิน
เราเลือกทุกอย่างที่เราทำ
ลงไปซื้อเอง ทำเองทุกอย่าง
แม้กระทั่งล้างถ้วยล้างชาม เราทำเองหมด

ป้าตอบแบบไม่ดราม่า
แต่ดูเข้าใจธรรมชาติของลูกค้าที่ป้าเจอมา

ผมค่อนข้างไม่กังขาในเรื่องรสชาติอาหารของป้า
อาหารของป้าถูกปากผมค่อนข้างมาก
แต่ไม่ค่อยถูก
และไม่ค่อยถูกกระเป๋าตังผมสักเท่าไหร่
แต่ป้าก็ยังขายได้ ขายดี และขายหมดอยู่ตลอด

ทำเลร้านป้าเอ็กซ์ ถือว่าเป็นทะเลทองของบางแสนตอนนี้
เป็นจุดยุทธศาสตร์เลยก็ว่าได้
อยู่กลางสามแยกหน้ามอ มองมุมไหนก็เห็น
ตีลังกา สะพานโค้ง ใช้หางตามองก็ยังเห็น

ผมแอบกระซิบป้าว่า มีคนเคยมาขอซื้อไหม?

ป้าบอกมี
เขาให้ป้า 15 ล้าน
ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร
แต่ป้าไม่ขายหรอกนะ
ป้าจะทำกับข้าวขายอยู่ที่นี่ไปจนตายนั่นแหละ
พอตายไปแล้วค่อยมาว่ากัน

เอาเงินไปตอนนี้ก็ไม่รู้เอาไปทำอะไร
ตายไปก็เอาไปไม่ได้
ขายข้าวแบบนี้ดีกว่า
เหนื่อย แต่มีความสุขกว่าเยอะ

ป้าหายไปห้าเดือน
ไม่มีใครรู้เลยว่าป้าไปไหน
เพราะป้าไม่อยากบอก
บอกไปก็เอาไปเล่าต่อไม่เหมือนกัน

ใจหนึ่งผมเคยคิดว่าหนึ่งในสามป้าเอ็กซ์นี้ต้องตายไปแล้วแน่ๆ
กังวลอยู่ลึกๆ
ว่าร้านข้าวที่เรากินบ่อยๆ
วันนึงเมื่อร้านมันปิด
เราก็เขวอยู่เหมือนกัน
ไม่รู้จะกินอะไร ไม่รู้จะยังไงต่อ

เหมือนเข้าร้านตัดผมแล้วช่างประจำไม่อยู่
ไปไม่เป็นเลยนะ
ช่างใหม่ก็ไม่แน่ใจ
ตัดแย่มา ต้องทนอยู่จนกว่าผมจะยาวอีกรอบ
นรกนะ

ให้อารมณ์คล้ายๆกัน


วันนี้ป้ากลับมาแล้ว
ใครที่ยังไม่รู้ ลองแวะไปร้านป้าได้นะครับ
ไปกินมาแล้ว


"แพงเหมือนเดิม"


ผมนั่งคุยกับป้าต่ออีกนานสองนาน
ป้าเล่าเรื่องให้ฟังอีกเยอะ
เยอะจนไม่รู้ว่า
ร้านข้าวร้านเล็กๆ
จะมีเรื่องราวให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมา
ได้แวะเข้ามาฟังอดีตได้มากขนาดนี้

นั่งฟังป้าพูดไป
ก็เหมือนเห็นบางแสนตั้งแต่เด็กๆ
จนตอนนี้โตเป็นนักธุรกิจ
ปลูกคอนโดร่ำรวยเต็มไปหมด

ไม่รู้ว่าร้านป้าจะอยู่อีกนานไหม

วันนี้ยังเห็นร้านป้าอยู่ตรงนี้
พรุ่งนี้ร้านป้าอาจโดนคอนโดหล่นมาทับแล้วก็ได้

โลกมันหมุนเร็ว จนบางครั้งทรงตัวไม่อยู่


คิดถึงป้าเอ็กซ์


ร้านข้าวแกงที่แพงที่สุดในโลก

วันอังคารที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2557

ม.บูรพา แนะนำน้องใหม่ เรื่องการใช้ชีวิตหลักๆที่น้องๆควรรู้เมื่อเข้ามาเรียน

           สวัสดีเคริ้บบบ พี่เป็นนิสิต ม.บูรพา วิทยาเขต บางแสน รหัส 53 ฮะ
นี่ตั้งใจเปิดบล็อกมาเพื่อแนะนำน้องๆที่สนใจเรียน ม.บูรพา โดยเฉพาะเลยนะเนี่ย ^ ^

ต้องบอกก่อนนะฮะ ว่าพี่เป็นคนชลบุรี เรียนมาตั้งแต่ อนุบาล ยัน ม. 6 ก็ติดแหง่กอยู่ที่ชลบุรีเนี่ยแหละ(ตอนมัธยมพี่เรียน ชลกันยานุกูล หรือ ชลหญิง นั่นแหละ) พอจบ ม.6 เลยอยากไปเรียนไกลๆๆๆๆ เบื่อชลบุรีแล้วว้อยยยยยยยย ขอบอกว่า ม.บูรพา นี่ไม่เคยอยู่ในหัวพี่เลยนะ แต่แล้วมะแอ้งงงง ยังก๊ะบร๊ะเจ้ากลั่นแกล้ง โดนพี่สาวไซโคให้มาอยู่ ม.บูซะงั้น ด้วยเหตุผลที่ว่า "อยู่คนละที่เปลืองตังแม่" (เออ กรูวววว ยอมมมม)

แต่ต้องขอบคุณพี่สาวพี่ที่ปูทางไว้ให้ มันย้ายมาหลายหอจนเจอหอที่ดี พี่เลยได้อยู่อย่างสบาย ฮ่าๆๆ

เอาหล่ะ เข้าเรื่องนะ สิ่งที่น้องๆควรรู้คือ

หอใน
เมื่อก่อนตอนพี่อยู่ มันจะมีหอหญิงล้วนคือ


  • หอ๑๕
  • หอ๕๐
  • หอเทาทอง2


ส่วนหอชายมีหอเดียวคือ หอ14


ซึ่งทุกหอที่กล่าวมานี้ ไม่มีแอร์!!!

ที่สำคัญ หอ๕๐ นี้น้องๆต้องอยู่ร่วมกันถึง 7 คน และ ห้อง-น้ำ-รวม ต้องเดินออกมาที่ระเบียง แล้วคิดสภาพตอนดึกๆที่ปวดขรี้ดิ ไม่อยากนึกภาพ ส่วนใครได้หอเทาทองก็ดีไป เพราะมีห้องน้ำในห้อง และอยู่แค่ 4 คน เป็นเตียงแบบ 2 ชั้น 2 เตียง ตู้เสื้อผ้าอีกคนละตู้ และมีโต๊ะเขียนหนังสือให้อีกคนละโต๊ะ ข้างใต้หอก็มีโทรทัศน์ให้ดู มีคอมให้เล่นหลายเครื่อง มีโต๊ะให้นั่งอ่านหนังสือ บรรยากาศโอเค คนเดินผ่านไปมา เข้าออกตลอด ไม่เหงาจ้ะบอกเลยยยย อ้อ!! เมื่อเข้าหอแล้ว ห้ามออกหลัง 4 ทุ่มครึ่งนะ แมร่งปิดรั้วทันที แถมป้ายามยังเฝ้าตลอดด้วย โหดยิ่งกว่าเคอฟิว ส่วนใครไปเที่ยวเพลิน จะเข้าหลังรั้วปิดต้องลงชื่อ+โชว์บัตรหอด้วยนะ (ที่เล่าเรื่องหอเทาทองได้ละเอียดเพราะว่าเมื่อก่อนไปอยู่หอเพื่อนบ่อย ชอบเนียนไปนอนด้วยจนป้ายามคิดว่าเป็นเด็กหอในไปละ)

ต่อมาก็สร้างเพิ่มอีกหอนึง ชื่อ เทาทอง3 ที่สำคัญ!! มี "แอร์" ใช่ๆๆๆ มองเห็นไม่ผิด มันมีแอร์จ้าาาา แต่อันนี้รู้สึกจะเป็นหอรวมรึเปล่าก็ไม่รู้นะ (เคยเห็นผู้ชาย เข้า-ออก บ่อยอยู่ช่วงนึง แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงนั้นมันมีงานอะไรรึเปล่า)

ล่าสุดนี่สร้างใหม่ไม่รู้เสร็จยัง ได้ยินข่าวมาว่าเป็นหอ 15 ชั้นมั้ง มีลิฟท์โด้ยยยย

หอในนี่คิดราคาเป็นเทอม ย้ำอีกที คิดเป็น "เทอม"นะ ไม่ได้คิดเป็นเดือน ถูกโคตรๆ ถูกชิพหรายยย

 เทอมละ 6500 บาทมั้ง ประมาณนี้แหละ (อันนี้ราคาของเทาทอง2นะ) เหมารวมค่าน้ำไฟละ คือถูกโคตร เอาจริงๆ สภาพก็น่าอยู่ ระบบรักษาความปลอดภัยก็ดี แต่ต้องจองไวๆนะ เพราะเวลาเปิดจองหอที คิวยาวตั้งแต่ 6 โมงเช้า บางคนจองไม่ทันก็อดไป คือแมร่งโคตรเปิดประสบการณ์ใหม่ของคำว่าเด็กหออ่ะ คือน้องต้องลองอยู่หอในสักปีนึง ถ้าไม่ชอบค่อยย้ายไปอยู่หอนอก แต่พี่อยากให้อยู่ เพราะน้องจะได้เพื่อนเยอะมากกกกกกกก และประหยัดตังเยอะมากกกกกกกก ที่สำคัญ บรรยากาศมันไม่น่ากลัวอย่างที่คิด อบอุ่นสุดๆ


ส่วนเรื่องที่พักข้างนอกมอนี่ มันจะมีอยู่ 3 ประเภท
1. หอ
2. คอนโด
3. บ้านเช่า

บ้านเช่านี่ จะหาว่างๆยากหน่อย และราคาค่อนข้างสูง ประมาณเดือนละ 10,000 คือน้องต้องหาคนแชร์ให้มากๆ ไม่งั้นไม่คุ้มจ้ะ แต่เรื่องระบบรักษาความปลอดภัย น้องต้องทำใจไว้ด้วย เพราะส่วนใหญ่มันไม่มียามมาเฝ้าให้ 24 ชั่วโมง


ทีนี้มาพูดถึงเรื่องหอนอกกันบ้าง

ถ้าเป็นหอพัดลมจะราคาไม่เกิน 3000
ถ้ามีแอร์จะราคาอยู่ที่ 4200 - 4900
ถ้าเป็นคอนโดจะอยู่ที่ 5500 - 7000

ค่าไฟหอ = หน่วยละ 8-9 บาท
ค่าไฟคอนโด = หน่วยละ 4 บาทกว่า

ถ้าใครเป็นพวกใช้ชีวิตติดแอร์ พี่แนะนำให้หาคอนโดอยู่ครับ ถัวเฉลี่ยกันแล้วก็จะประหยัดค่าไฟได้ มากกกกกก ส่วนใครไม่ค่อยเปิดแอร์ ก็ไม่ต้องอยู่คอนโดนะ หอดีๆมีเยอะแยะครับ ถ้าให้พี่แนะนำก็ สิมิลันแมนชั่นครับ (ที่ยอดรถเยอะ หอสะอาด สวยงาม ระบบรักษาความปลอดภัยดีเยี่ยมพี่สัมผัสมาแล้ว ราคาอยู่ที่เดือนละประมาณ 5000 ครับ ห้องกว้าง เตียงใหญ่ ห้องน้ำใหญ่ด้วย กว้างด้วย สวยด้วย หูยยย บรรยายไม่หมดครับ มันดีจริงๆ แต่จองยากหน่อยนะ ถ้าไปจองช่วงใกล้เปิดเทอมเนี่ย เต็มทุกที่ครับ อ้อ...แต่เสียค่าอินเตอร์เน็ตแยกนะครับ ไม่ฟรีนะจ๊ะ เดือนละ 300 จ้ะ )

ส่วนใครอยากทำอาหาร พี่แนะนำ The idol condo และ Blue Ocean ราคาอย่างถูกเลยก็ประมาณเดือนละ 6500 ครับ ทำอาหารได้


ส่วนการใช้ชีวิตที่นี่ แนะนำให้น้องๆพกรถมอไซค์มาครับ ขับสวี๊ดสว๊าดไปหาไรกิน ไปเที่ยว ไปทะเล ไปภูเขา ไปดูลิง ไปตลาด ไปร้านนม ไปวอล์กกิ้งสตรีท ไปดูหนัง ไปเรียน ใช้มอไซค์ชีวิตเฟี้ยวกว่าเยอะ อย่าเอารถยนต์มาเลย ที่นี่แมร่งไม่ใช่ที่สำหรับรถยนต์ครับ นี่พูดจริงๆนะ เรื่องที่จอดนี่ลืมไปได้เลย มันมีน้อยมากจริงๆ ถนนก็แคบ เค้าทำไว้สำหรับมอไซค์ครับ นาทีนี้ต้องมอไซค์เท่านั้น มอไซต์ only เชื่อพี่สิ

ส่วนเรื่องเข็มขัด และ ติ้งที่ห้อยตรงปกคอเสื้อนะครับ เราจะแบ่งเป็นสีตามชั้นปีครับ มีสี เขียวขาว น้ำเงินเหลืง แดงขาว น้ำเงินขาว โดยจะวนไปเรื่อยๆ เช่น ปีนี้ ติ้งเขียว-ขาว เป็นปีสี่ ปีหน้าติ้งขาวเขียวก็จะเป็นสีประจำของปีหนึ่งที่เข้ามาใหม่ครับ งง ป่ะ? มันจะวนไปเรื่อยๆ

เวลาน้องใหม่เข้ามาตอนรับน้องพวกสต๊าฟจะบอกให้ปี 1 สังเกต ที่ติ้ง กับหัวเข็มขัดครับ ใครสีต่างจากตัวเองให้ยกมือไหว้แมร่งให้หมดครับ มันเป็นธรรมเนียมตอนรับน้องครับ 5555555 แต่อันที่จริง ธรรมเนียมรับน้องมันมีขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องนะ น้องลองนึกดูนะครับ ถ้าเราไหว้พี่ พี่เค้าก็จะเอ็นดูเรา เจอหน้าบ่อยๆ ทักทายบ่อยๆ จำหน้ากันได้สานสัมพันธ์ต่อ เผื่ออนาคตเราต้องการความช่วยเหลือ เราก็จะมีคนให้นึกถึงเยอะแยะเลยครับ เพราะฉะนั้น ทำความรู้จักันไว้ทุกคนดีกว่าเนอะ อย่างน้อยก็ยิ้มไว้ก่อน โอ้วเย้!!! ^^ (แต่จริงๆไม่ต้องถึงกับดูหัวเข็มขัดหรอก แค่เห็นหน้าแก่ๆ เดินมาเชิดๆมั่นๆ แต่งหน้าหนาโบ๊ะนี่ก็รู้ละ Oops!!! 555555555)


ส่วนค่าเทอมก็จะมีค่่าบำรุงคณะทั่วๆไป รวมๆแล้ว ภาคปกติจะประมาณ 4000 ครับ ส่วนค่าหน่วยกิตก็หน่วยละ 100 ถูกๆ วิชาละ 300 บาทเอง แต่ถ้าเป็นภาถพิเศษนี่ดรอปทีมีอวกนะครับ เพราะหน่วยกิตละ 300 บาท วิชานึงมี 3 หน่วยกิต จ่ายขี้แตกครับ วิชาละ 900 เทอมนึงเรียนไม่ต่ำกว่า 5 วิชา พี่บอกเลย ดรอปทีน้องกระอักเลือดแน่ๆ เพราะฉะนั้น ตั้งใจเรียนนะครับ


หลักๆก็ประมาณนี้แหละมั๊ง

อ่านมาถึงตอนนี้ แล้ว อยากเรียน ม.บูรพา กันมากขึ้นรึเปล่าครับ? ^^
เรื่องดีๆยังมีอีกเพียบนะ คราวหน้ามาต่อกันเรื่องที่เที่ยว ที่สังสรรค์ และชีวิตกลางคืนของเด็ก ม.บู กัน