วันเสาร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ทะเลสีดำ กับ หาดวอนนภา

ทะเลสีดำ





ในเวลา 4 ปี
คนเราจะไปทะเลได้สักกี่วัน
ถ้าไปทุกวันเสาร์อาทิตย์ เราจะไปทะเลได้ 208 วัน
ถ้าไปแค่วันเสาร์วันเดียว เราจะไปทะเลได้ 104 วัน
ถ้าไปแค่เดือนละครั้ง เราจะไปทะเลได้ 48 วัน
ถ้าไปสามเดือนครั้ง เราจะไปทะเลได้ 16 วัน
และถ้าไปแค่ปีละครั้ง เราจะไปทะเลได้แค่ 4 วัน
แต่ระหว่างที่ผมเรียนอยู่ที่นี่
ผมไปทะเลได้ทุกวัน
เป็นเรื่องโชคดี
ที่มหาลัยที่ผมเรียนอยู่มีหาดบางแสนเป็นเพื่อนเคียงข้าง
กิจกรรมต่างๆ ในชีวิตผม จึงมีทะเลเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นส่วนใหญ่
ผมได้วิ่งเลียบชายหาดบางแสน
ในวันที่พวกเขาเอาเด็กปีหนึ่งทั้งหมด
ไปปล่อยไว้ที่เขาสามมุก
แล้วให้พวกผมวิ่งกลับเพื่อไปเข้าเส้นชัยที่มหาลัย
ง่วง เหนื่อย  แต่สนุก

เพื่อนผมบางคณะ มีกิจกรรม บูมทะเล(วิศวะ)
คือให้พวกเขาไปยืนกอดคอกันกลางทะเล
ก้มหน้า อ้าปากบูมมหาวิทยาลัย บูมคณะกันใต้น้ำ
เพื่อนให้รุ่นพี่ที่อยู่บนฝั่งได้ยิน
ซึ่งความต้องการของพี่พวกนี้
มักไม่มีขีดจำกัด

เป็นบูมมหาวิทยาลัยที่เค็มมาก
แต่เพื่อนมักจำประสบการณ์ครั้งนี้ได้แม่น
เล่าเมื่อไหร่ก็ฮากันยกโต๊ะ
เหมือนที่ยาสีฟันยี่ห้องหนึ่งชอบบอกว่า
เค็ม...แต่ดี

ผมมักออกไปขี่รถเล่นกับเพื่อนตอนเย็น
หาจุดจอดแถวหาดวอน
ยืนมองทะเล คิดอะไรเรื่อยเปื่อย
แต่มักเห็นภาพคนลงไปเยี่ยว
บางครั้งขี่เข้าไปถึงสะพานปลา
ใกล้ทะเลเข้าไปอีกคืบหนึ่ง
เหมือนซื้อตั๋วแถวหน้า
เห็นคนยืนเยี่ยวชัดขึ้นอีกระดับหนึ่ง
ชีวิตยามพลบค่ำของเด็กบางแสน
นอกจากจะแต่งตัวเตรียมออกล่าที่เบอด๊อกแล้ว
บางคน ก็ตระเตรียมเตาถ่าน
กุ้งสด หมึกสด ที่ออกไปซื้อที่สะพานปลาอ่างศิลาตั้งแต่เมื่อเช้า
ปูเสื่อกันริมหาด ย่างทะเลคลอเคล้าไปกับบทสนทนาระหว่างเพื่อน
บางคนเอากีตาร์มาช่วยเพิ่มบรรยากาศ บวกกับเบียร์ถูกๆชั้นเลิศ
พร้อมกับลาบกุ้งเต้นที่ลุงรถพ่วงเพิ่งเอามาเสิร์ฟ
ความสนุกอยู่ตรงต้องค่อยๆแอบเปิดฝากล่อง
เพราะกุ้งเต้นแรง กับจังหวะกีตาร์ที่เพื่อนดีดมัน
ค่อยๆเปิด ค่อยๆกิน 

เปิดกว้างไปจะโดดออกมาเต้นกันจนหมดฟลอร์
บางแสนเป็นคนโรแมนติก
นั่นทำให้คู่หนุ่มสาวหลายคู่
เดินทางมาบอกรักกันที่นี่

ผมเห็นสาวน้อยซ้อนเวสป้า
จับเอวอิงไหล่
นี่ถ้าไม่ใช่รักแรก
ก็คงเป็นมายาในระดับหนึ่ง

เราอยู่กับแฟนได้ทุกที่
แต่ถ้าอยู่ที่ทะเล
มันจะมีความทรงจำทีดีกว่าที่อื่น
ผู้ชายจึงมักชวนผู้หญิงที่ชอบไปทะเล

แต่ถ้าชวนไปเสม็ด
อันนี้ผมไม่รู้

คนมาทะเล
ไม่มาร้องเพลง
ก็มาร้องไห้...

หลายครั้งที่ผมยังเห็นใครบางคน
มักมาจอดรถยืนมองทะเลคนเดียว
สายตาที่มองออกไปนั้น
เหมือนกำลังดูเรื่องราวที่กำลังฉายอยู่บนท้องฟ้า
มีเสียงคลื่น มีลมพัด
ยืนไปสักพัก เริ่มมีน้ำตา

หาดบางแสนไม่ได้ถูกออกแบบสำหรับการมานั่งคนเดียว
ไม่ใช่เพราะมันเปลี่ยว แต่มันเหงา
เพราะเมื่อบางแสนเริ่มเศร้า
มันก็เศร้าเกินกว่าที่จะกลั้นน้ำตาเอาไว้ให้อยู่

ผมชอบมาทะเล
ไม่ใช่เพราะผมชอบร้องเพลง
แต่ผมมาดูทะเลร้องไห้

ทุกครั้งที่ฟังเพลงทะเลสีดำ
ผมมักคิดถึงที่นี่
ผมคิดถึงเพราะเพลงมันเพราะ
แต่บางคนคิดถึงบางแสน
เพราะมันเป็นสีดำ

เรามีความสุข เรามาบางแสน
เรามีความทุกข์ เราก็มาบางแสน
บางแสนเป็นทะเลใจกว้าง
รองรับทุกอย่างจากเราเสมอ
แต่หลังปลดทุกข์ เราก็เก็บสุขกลับไป
เหลือเพียงมูลที่เน่าหนอนชอนไช
โยนกลับไปที่ทะเล

ผมจึงไม่รู้ว่า
ที่บางแสนเป็นแบบนี้
เพราะนิสัยของบางแสนที่ชอบเก็บขยะ
หรือเพราะความสกปรกที่ผู้เยี่ยมเยียนเป็นระยะ
หยิบยื่นมาให้

ผมโชคดี ที่มีทะเลอยู่ใกล้ๆ
เป็นทะเลที่ชายหาดเต็มไปด้วยเศษแก้ว
พลาสติกลอยน้ำหยอกล้อกับสาหร่ายเน่า
เป็นทะเลที่น้ำจะใสแค่ช่วงฤดูหนาว
เป็นทะเลสำหรับดูดาวในคืนที่อยากคุยกับใครสักคน

ผมรักที่นี่
เพราะผมโตที่นี่
ผมลอยกระทงที่นี่
ผมเมาที่นี่
ผมอกหักที่นี่
ผมมาเยี่ยวที่นี่
ผมมีความสุขกับเพื่อนที่นี่

ในเวลา 4 ปี
คนเราจะไปทะเลได้สักกี่วัน
ผมมีชีวิตเฉลี่ยแค่ 21,720 วัน
การเลือกมาทะเลแค่ปีละวัน
บางแสนคงคิดว่าไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ อีโมติคอน smile
Repost เขียนไว้เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2555
Photo by Tuck1405

จาก ข้างนอกสดใส ข้างใน ม.บู

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น